พบกันอีกครั้งกับนิทรรศการเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น Tokyo Game Show 2017 ปีนี้งานจัดขึ้นเมื่อวันที่ 21-24 กันยายนที่ผ่านมา ณ Makuhari Messe ครับ มีบริษัทมาร่วมงานทั้งสิ้น 609 บริษัท มีผู้ร่วมงานทั้งสิ้น 254,311 คน ตลอด 4 วัน แม้ตัวเลขจะน้อยกว่าปีก่อนหน้า แต่ก็ความคึกคักก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
หลังจากที่ปีที่แล้วโมเดลแบ่งเขียนหลายๆ ตอนพังไม่เป็นท่า (กราบขออภัยครับ) ปีนี้ผมขออนุญาตลดขอบเขตของบทความลง เหลือแค่บูทใหญ่ที่มีส่วนจัดแสดงน่าสนใจเท่านั้น แต่จะพยายามเพิ่มบทความพรีวิวเกม และข่าวเก็บตกอื่นๆ แทนครับ
ปีนี้บูท PlayStation ยังคงอลังการงานสร้างเช่นเดียวกับทุกๆ ปี เกมที่โปรโมทเด่นที่สุดคือเกม Detroit: Become Human โดยจ้างนักแสดงมายืนนิ่งๆ (มีขยับบ้างเล็กน้อย) เป็น Android ในตู้โชว์ และรอบๆ บูท ผมเดินเฉียดเข้าไปใกล้ๆ ไม่ทันสังเกตก็มีตกใจเหมือนกัน นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนจัดแสดง Monster Hunter World (แต่ยังไม่ยิ่งใหญ่เท่าที่บูท Capcom) และ Gran Turismo Sports ที่สามารถลองเล่นได้ทั้งแบบ VR และแบบปกติครับ
ถึงแม้ PlayStation VR จะออกวางขายมาได้สักพักแล้ว แต่โซนสาธิตเกมใหม่ๆ ของ PlayStation VR ก็ยังยาวที่สุด แม้ผมจะไปถึงบูทค่อนข้างเร็ว แต่ก็พบว่าคิวทุกเกมนั้นเต็มหมดแล้ว เหลือแต่คิวตัวสำรอง รอคนยกเลิกครับ ความฝันที่จะไปถูกคุณหนู Shinjo Chisato จ้องด้วยสายตาเหยียดหยาม ก็เป็นอันต้องพับเก็บกันไป (เอาไว้พบกันเดือนตุลานะ)
แม้จะพลาดจากโซน PlayStation VR แต่เกมทางฝั่ง PlayStation 4 นั้นยังมีหวังครับ ผมเลือกเล่น Code Vein (อ่านพรีวิวของเราที่นี่) และ Detroit: Become Human ซึ่งแม้จะคิวยาวมาก แต่ก็คุ้มค่าทั้งคู่
ถึงแม้ช่วงที่ผ่านมาจะมีข่าวในทางไม่ดีออกมาเยอะ แต่เกมที่ Konami นำมาแสดงในปีนี้นั้นค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวครับ นอกจากเกมที่เป็นประเด็นถกเถียงกันอย่าง Metal Gear Survive (ซึ่งปีนี้พร้อมให้ทดลองเล่นได้แล้ว คิวไม่ยาวมากด้วย!) ปีนี้ทาง Konami ยังเปิดตัวเกม Zone of The Enders: M A R S อีกด้วย แม้ว่าจะเป็นเกม Remaster จากเวอร์ชัน PlayStation 3 แต่ในรอบนี้สามารถเล่นด้วย PlayStation VR จากมุมมองบุคคลที่ 1 ได้ ซึ่งเพิ่มความน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก ภายในบูทเปิดให้ทดลองเล่นเกมนี้ทั้งในแบบปกติและแบบ VR ซึ่งทั้งคู่ก็ได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานเป็นอย่างมากครับ
สำหรับบริเวณที่คนแน่นที่สุดต้องยกให้โซนทดลองเล่นเกม Love Plus Every ซึ่งเป็นการกลับมาอีกครั้งของสุดยอดเกมทำลายมวลมนุษยชาติ Love Plus (หรือที่มิตรสหายท่านหนึ่งเรียกว่า “รักบวก แต่เงินในกระเป๋าตังติดลบ”) ในรูปแบบ Mobile Game พร้อมฟีเจอร์ VR ที่กำลังมาแรงในกลุ่ม Mobile Game ของญี่ปุ่น ภายในโซนนี้ตกแต่งเป็นแบบโรงเรียนมัธยมปลายญี่ปุ่น น่ารักมุ้งมิ้งมากๆ ครับ ที่สำคัญคือทุกคนที่ลองเล่นเกมนี้จะได้รับกล่อง VR กระดาษลาย Love Plus Every ติดตัวกลับไปอีกด้วย แม้ผมจะไม่ได้ไปเล่นด้วยตัวเอง แต่จากการสอบปากคำทีมงานที่ไปฝ่าฝันต่อคิวเล่นได้ความว่า
เล่นแล้ว... เลือกมานากะจังไป... จบแล้ว... จบสิ้นแล้ว... ลาก่อน 3D
หลังบูท Konami เป็นส่วนจัดแสดงเกมจากค่ายพาร์ทเนอร์ โดยเกมที่น่าสนใจคือ Eiyuu Densetsu: Sen no Kiseki III (The Legend of Heroes: Trails of Cold Steel III) จากค่าย Falcom ครับ เกมนี้เป็นเกม JRPG แบบดั้งเดิมคุณภาพสูงที่หาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน (ที่สำคัญคือนางเอกน่ารัก!) ซึ่งผมก็ไม่พลาดที่จะไปทดลองเล่น และรับไอเทมล้ำค่า Acrylic Keychain/Figure ลายนางเอก ติดไม้ติดมือกลับมา
พื้นที่เกือบทั้งหมดของ Square Enix ในปีนี้กลายเป็นของเกมต่างๆ ในตระกูล Final Fantasy ตั้งแต่ Final Fantasy XV สารพัดเวอร์ชัน ไปจนถึง Dissidia Final Fantasy NT และ รวมถึง Final Fantasy XIV ครับ สำหรับเกม Left Alive ที่เป็นที่กล่าวขานกันนั้น ปัจจุบันยังมีเพียง Trailer มาฉายให้ชมครับ
อีกเกมหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ Itadaki Street Dragon Quest & Final Fantasy 30th Anniversary ซึ่งรูปแบบการเล่นจะคล้ายๆ เกมทำลายมิตรภาพ Dokapon Kingdom แต่เป็นธีม Dragon Quest และ Final Fantasy ในกราฟิกสุดน่ารัก ตัวเกม (เวอร์ชันภาษาญี่ปุ่น) กำหนดวางจำหน่ายวันที่ 19 ตุลาคมนี้สำหรับ PlayStation 4 และ PlayStation Vita ครับ
พื้นที่เกือบครึ่งบูทในปีนี้ของ Capcom ถูกจัดให้สำหรับ Monster Hunter World ครับ ซึ่งแม้จะใหญ่ขนาดนี้แต่ก็ยังไม่เพียงพอ คนต่อคิวรอเล่นเกมล้นออกมาถึงหน้าบูท โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ถนัดเกมในตระกูลนี้สักเท่าไหร่ จึงขอแค่เดินเก็บบรรยากาศรอบๆ บูทครับ
กรุณาสังเกต Demographic ผู้เข้าคิวฝั่งซ้ายและฝั่งขวา
ช่วงนี้กระแส e-Sports กำลังมาแรงทั่วทุกมุมโลก ที่ญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกันครับ ปีนี้ภายในงานมีการจัดเวทีแยกเฉพาะสำหรับแข่งขัน e-Sports โดยเฉพาะในชื่อ “e-Sports X” ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานพอสมควร แต่เนื่องจากเวทีอยู่ค่อนข้างห่างจากฮอลหลัก ทำให้ผู้ชมอาจจะน้อยไปบ้าง ในช่วงที่เราผ่านไปเห็นว่ากำลังแข่ง Overwatch กันอยู่ครับ โดยเป็นการพบกันระหว่าง ทีมชาติญี่ปุ่น และทีม 7th Heaven ซึ่งเป็นผู้ชนะเลิศจากรายการ Overwatch Championship Series
โดยรวม แม้ในปีนี้จะไม่มีประกาศอะไรใหม่ๆ มากนัก แต่งานในส่วนจัดแสดงก็ยังสนุกสนานไม่เปลี่ยนแปลงครับ ผมต้องขอขอบคุณทาง Blognone ที่ให้โอกาสผมไปร่วมงานในฐานะสื่อ และขอบคุณภาพสวยๆ ทั้งหมดจากช่างภาพส่วนตัว คุณ ปัณณวิชญ์ สามัตถิยดีกุล มา ณ ที่นี้ด้วย สำหรับภาพจากงานทั้งหมดสามารถชมได้ที่ Flickr ของผม เช่นเคยครับ