จากประเด็นบัญชี Facebook ปลอมรันโฆษณาช่วงเลือกตั้งสหรัฐฯ จุดกระแสประเด็นข่าวปลอมช่วยให้โดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งให้กลับมาอีกครั้ง และดูเหมือนว่าสายตาเพ่งเล็งไปที่ Facebook มากเป็นพิเศษ
ล่าสุดทวิตเตอร์ออกมาเผยว่า ได้เข้าเจรจากับคณะกรรมการรัฐสภา เรื่องการสืบสวนหาหลักฐานการแทรกแซงของรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2016 โดยวันนี้ Colin Crowell รองประธานฝ่ายนโยบายสาธารณะของทวิตเตอร์ เข้าพูดคุยกับคณะกรรมการด้านข่าวกรอง หรือ House Permanent Select Committee on Intelligence รวมทั้งเผยข้อสงสัยการผลการสืบสวนภายในเป็นตัวเลขคร่าวๆ
ทวิตเตอร์เผยว่า จากบัญชีน่าสงสัยใน Facebook ประมาณ 450 บัญชี มีประมาณ 22 บัญชีที่เกี่ยวข้องกับทวิตเตอร์ด้วย บัญชีเหล่านั้นถูกระงับเรียบร้อยแล้ว และจากการสอบสวนต่อ พบว่ามีอีกประมาณ 179 บัญชีที่เชื่อมโยงกันและละเมิดกฎของทวิตเตอร์ แต่ทวิตเตอร์ระบุว่าบัญชีกลุ่มดังกล่าวไม่ได้จดทะเบียนเป็นผู้ซื้อโฆษณาบนแพลตฟอร์ม
ทวิตเตอร์ระบุผ่านบล็อกเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการข่าวกรองสหรัฐฯ ออกรายงานเมื่อต้นปีเพ่งเล็งที่กลุ่ม RT (Russia Today) มากเป็นพิเศษ เพราะคาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซียและแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2016 ส่วนบัญชีทวิตเตอร์ที่อาจเชื่อมโยงกับกลุ่ม RT เท่าที่ตรวจสอบมามีสามบัญชีคือ @RT_com, @RT_America, และ @ActualidadRT ทางทวิตเตอร์กล่าวว่าสามบัญชีดังกล่าวโปรโมทข้อความทวิตเตอร์ 1,823 รายการ และน่าจะมุ่งเป้าไปที่ตลาดผู้ใช้ที่อาศัยในสหรัฐฯเป็นสำคัญ กลุ่มสื่อที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลรัสเซียได้ใช้เงินโฆษณา 274,100 ดอลลาร์ฯ เพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข่าวสาร
ด้านความปลอดภัย และสแปม ทวิตเตอร์ระบุว่า เทคโนโลยีของทวิตเตอร์สามารถตรวจจับบัญชีสแปมได้มากกว่า 3.2 ล้านบัญชีต่อสัปดาห์ ด้วยบริษัทพัฒนาระบบตรวจจับให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และเวลายื่นข้อมูลตัวเลขผู้ใช้แก่ผู้ถือหุ้น ทางบริษัทไม่ได้นับรวมเอาบัญชีสแปมเข้ามาด้วย โดยในอนาคตทวิตเตอร์ระบุว่าจะจัดการระบบโฆษณาให้โปร่งใสขึ้น ซึ่งพูดไปในทางเดียวกับ Facebook
ที่มา - Twitter Public Policy