EasyJet หนึ่งในสายการบินของยุโรปประกาศเตรียมให้บริการเครื่องบินไฟฟ้าในทศวรรษหน้า โดยทางสายการบินได้ร่วมมือกับสตาร์ทอัพด้านการบิน Wright Electric เพื่อทำให้วิสัยทัศน์นี้เป็นจริงได้
Jeff Engler ซีอีโอของ Wright Electric ได้ให้สัมภาษณ์กับ Ars Technica โดยกล่าวว่าระยะทำการบิน 335 ไมล์ที่ทาง EasyJet ต้องการนั้นอาจจะไม่สามารถทำได้ด้วยความสามารถของแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และก็ไม่น่าจะพัฒนาเร็วได้จนถึงเป้าหมายในทศวรรษหน้าอยู่ดี ปัจจุบันทางบริษัทกำลังพัฒนาเครื่องบินไฟฟ้าในขั้นตอนแรกอยู่ และอาจจะหาเทคโนโลยีแบตเตอรี่อื่นมาทดแทนอย่างเช่นลิเทียมซัลเฟอร์, อะลูมินัมแอร์ และเซลล์กำเนิดไฟฟ้า (fuel cell)
นอกจากนี้ Wright Electric ยังมองไปถึงหนทางการใช้เครื่องยนต์แบบผสม โดยเครื่องยนต์เจ็ทแบบดั้งเดิมจะใช้สำหรับขยายระยะทำการบิน เพราะเครื่องบินจะต้องมีเชื้อเพลิงเหลือเพียงพอตามข้อกำหนดของความปลอดภัย เชื้อเพลิงเสริมเหล่านี้จะเบากว่าแบตเตอรี่ และไม่ต้องเผาไหม้ในการบินทั่วไป (เพราะใช้ไฟฟ้า) เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
Sean Clarke นักวิทยาศาสตร์ของ NASA ได้ให้ข้อมูลทางอีเมลกับ Ars Technica โดยกล่าวว่าเชื้อเพลิงเครื่องบินสามารถให้พลังงานได้ถึง 12,000 วัตต์-ชั่วโมงต่อหนึ่งกิโลกรัม ในขณะที่ระบบแบตเตอรี่สั้นสามารถให้พลังงานได้เพียง 200 วัตต์-ชั่วโมงต่อกิโลกรัมเท่านั้น (ซึ่งว่าง่าย ๆ คือต้องใช้แบตเตอรี่ที่น้ำหนักมากกว่าเชื้อเพลิงเครื่องบินหลายเท่าตัวจึงจะสามารถบินได้ในระยะทางเท่าเดิม) จึงเป็นปัญหาสำคัญเพราะเครื่องบินนั้นต้องบินระยะไกลมากก่อนที่จะเติมน้ำมันครั้งถัดไป
ปัจจุบัน Alpha Electro หนึ่งในเครื่องบินไฟฟ้าที่ดีที่สุดนั้นยังให้ระยะบินอยู่ที่ 80 ไมล์ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้งเท่านั้น ในขณะที่ EasyJet ตั้งใจจะทำให้ได้ถึง 335 ไมล์
แม้ว่าจะดูน้อย แต่ทุกวันนี้เทคโนโลยีแบตเตอรี่พัฒนามาไกลมาก โดยประมาณคือ 7% ต่อปี ดังนั้นหากแบตเตอรี่ยังคงพัฒนาด้วยความก้าวหน้าในระดับนี้ อีก 10 ปีก็น่าจะเก็บไฟได้มากขึ้นกว่าปัจจุบันถึง 2 เท่า และหากต้องมีการออกแบบเครื่องบินใหม่เพื่อให้ใช้พลังงานไฟฟ้า เครื่องยนต์ก็จะเบากว่าเครื่องยนต์เจ็ทในปัจจุบัน
ที่มา - Ars Technica, EasyJet