ทาง Parity Tech เพิ่มเติมข้อมูลช่องโหว่กระเป๋าเงิน multisig โดยสร้างเว็บค้นหากระเป๋าเงินที่ได้รับผลกระทบไว้ที่ affected.parity.io โดยไม่เปิดเผยบัญชีทั้งหมด แต่บอกตัวเลขกระเป๋าเงินรวมว่ามี 584 รายการ จากเจ้าของ 573 คน
เนื่องจากไม่มีรายการรวมทำให้ยังไม่เห็นยอดเงินที่แท้จริงว่ามีเงินถูกแช่แข็งไว้ในกระเป๋าเงินเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน แต่เจ้าของบางรายเป็นหน่วยงานขนาดใหญ่ เช่น ICONOMI บริษัทจัดการทรัพย์สินดิจิตอลที่ออกมาประกาศได้รับผลกระทบกับทรัพย์สินของบริษัท โดยยืนยันว่าทรัพย์สินของลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบ แต่เฉพาะบัญชีที่ได้รับผลกระทบก็มีมูลค่า 37 ล้านดอลลาร์หรือกว่าพันล้านบาท อีกรายหนึ่งคือ Web3 Foundation ที่ระดมทุนเพื่อโครงการ Polkadot ถูกแช่แข็งบัญชีมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ (กว่าสามแสนอีเธอร์) หรือกว่าสามพันล้านบาท อย่างไรก็ดีทาง Web3 ระบุว่าบัญชีนี้ไม่ใช่กองทุนทั้งหมด และโครงการ Polkadot จะยังเดินหน้าต่อไป
คำถามคือหลังจากนี้ควรทำอย่างไร ตอนนี้ทาง Parity กำลังหาทางออก แต่ระบุว่าจะยังไม่เรียกร้องให้แตกสายโซ่ Ethereum เพื่อยกเลิกความผิดพลาดแบบเดียวกับตอน DAO เมื่อปี 2016 ในสมัย DAO นั้น Vitalik ผู้ก่อตั้ง Ethereum ก็เคยเตือนว่าไม่ควรสร้างสัญญาใดๆ ที่มีมูลค่าเกิน 10 ล้านดอลลาร์ ผ่านมาสองปีก็ยังคงมีการสร้างสัญญามูลค่านับร้อยล้านดอลลาร์กันอยู่ และตัวไลบรารีของ Parity เองก็ผูกกับสัญญาอื่นๆ มูลค่ารวมหลายร้อยล้านดอลลาร์
ที่มา - Parity Tech, CoinDesk