มหาวิทยาลัยไทยพร้อมแค่ไหนในตลาดแรงงานยุคดิจิทัล

by sponsored
4 December 2017 - 02:22

ปัญหาคนว่างงานในกลุ่มที่จบปริญญาตรีใหม่ มีให้ได้ยินบ่อยครั้ง ที่น่ากังวลคือมีจำนวนคนว่างงานมากขึ้นทุกปี สำนักงานสถิติแห่งชาติเผยตัวเลขบัณฑิตจบใหม่ในปี 2017 มีอัตราว่างงานประมาณ 160,000 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ที่มีประมาณ 103,000 คน

หลักสูตรการศึกษาที่ไม่สอดคล้องกับเนื้องานในตลาดแรงงานเป็นสาเหตุสำคัญ จุดอ่อนของการศึกษาไทยคือปรับตัวไม่ทันต่อความต้องการตลาดแรงงานที่ถูกกดดันให้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจดิจิทัล แต่การศึกษาแบบเดิมๆยังผลิตคนที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงานยุคเก่า ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมเปลี่ยน เทคโนโลยีขับเคลื่อนให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่และสายงานใหม่ๆ มากมาย

ตัวอย่างอาชีพไอทีที่กำลังมาแรงและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานจากเว็บไซต์ Career Cast ของสหรัฐฯ คือ

  • Computer Systems Analyst นักวิเคราะห์ระบบคอมพิวเตอร์ เป็นหนึ่งในอาชีพรายได้สูง และจะมีความต้องการในตลาดงานมากในระยะยาวไปจนถึงปี 2024
  • Online Sales Manager เนื่องจากอัตราการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ คนที่จบสายงานนี้มาหรือทำอาชีพนี้อยู่แล้วมีความเป็นไปได้สูงว่ารายได้จะโตขึ้น ปัจจุบันเงินเดือนเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 117,960 ดอลลาร์ ถือว่าสูงขึ้นหมายเท่าเมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อนอยู่ที่ 88,000 ดอลลาร์
  • Security Analyst ผู้ดูแลความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล ปัจจุบันธุรกิจการค้าโดยเฉพาะอุตสาหกรรมด้านสุขภาพมีการดำเนินการผ่านออนไลน์มากขึ้น นำมาซึ่งปริมาณข้อมูลมหาศาล นำไปสู่ความเสี่ยงต่อการโจมตีและโจรกรรมข้อมูล อาชีพดูแลความปลอดภัยข้อมูลจึงกำลังเป็นที่ต้องการในตลาดไอที
  • Operations Research Analyst นักวิเคราะห์การดำเนินงานเป็นอีกหนึ่งอาชีพใหม่ที่สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่ส่งผลให้ตลาดเปลี่ยนแปลง โดยเว็บไซต์ Career Cast คาดว่าสายอาชีพนี้จะโต 30% ภายปี 2024


ภาพจาก Pexels

การที่จะสามารถผลิตคนตอบโจทย์ตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงได้ ภาคการศึกษาต้องปรับตัวครั้งใหญ่ เริ่มจากศึกษาตลาดงาน ทิศทางการเติบโต ลงทุนอุปกรณ์การเรียนที่ทันสมัยและทั่วถึง สื่อการสอนและอุปกรณ์ที่ทันสมัยคือพื้นฐานอันดับต้นๆ ของการศึกษา เพราะโลกอุตสาหกรรมพึ่งพาเทคโนโลยีในระดับสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันการศึกษาไทยยังมีจุดอ่อนเรื่องสื่อการสอนมาตลอด

ภาคการศึกษายังต้องปรับหลักสูตรที่รองรับสายงานเกิดใหม่ให้ทัน โดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญ และผู้ประกอบการจากภาคเอกชนที่อยู่ในอุตสาหกรรมจริงในการปรับปรุงหลักสูตรให้เข้ากับยุคสมัย นอกจากนี้ยังสามารถส่งเสริมให้นักศึกษาทำกิจกรรมนอกหลักสูตรการศึกษา แข่งขันนวัตกรรมใหม่ด้วยการใช้สื่อดิจิทัล อันเป็นประโยชน์ต่อการฝึกฝนทักษะที่จำเป็นต่ออนาคต

ตลาดแรงงานยุคใหม่ soft skill สำคัญไม่น้อยไปกว่า hard skill

ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) พบว่าบัณฑิตที่จบมาได้งานทำน้อย เพราะนักศึกษาก่อนเป็นบัณฑิตยังไม่ค้นพบตนเองว่าอยากทำอาชีพอะไร และมีจำนวนไม่น้อยที่ไม่มีเป้าหมายชัดเจน
นอกจากนี้ ความต้องการในตลาดแรงงานเน้นทักษะด้าน soft skill ไม่น้อยไปกว่าทักษะในสายงาน (hard skill) ตัวอย่างทักษะ soft skill ได้แก่ ภาษาอังกฤษ, การเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ, การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ, การทำงานเป็นทีม และที่สำคํญคือ มีความคิดสร้างสรรค์
ข้อมูลจาก World Economic Forum ระบุทักษะอื่นที่จำเป็นนอกเหนือจากทักษะในสายงาน ที่บุคลากรควรมีในปี 2020 คือ

  • การแก้ปัญหาที่มีความซับซ้อน (Complex Problem Solving)
  • การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking)
  • ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
  • การบริหารจัดการคน (Management)
  • การประสานงาน (Coordinating with Others)
  • ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence)
  • การตัดสินใจ (Judgement and Decision Making)
  • ความคิดเชิงการให้บริการ (Service Orientation)
  • การต่อรอง (Negotiation)
  • ความยืดหยุ่นในการปรับกระบวนการคิดให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ (Cognitive Flexibility)


ภาพจาก Stocksnap.io

ระบบการศึกษาไทยยังผลิตคนได้ไม่ตอบโจทย์ทักษะด้าน soft skill มากพอ เพราะการสอนของไทยยังเป็นลักษณะป้อนข้อมูลสู่นักเรียนนักศึกษา ครูอาจารย์ยังเป็นศูนย์กลางของการศึกษา ไม่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะ soft skill มากนัก

ภาคการศึกษาสามารถปรับนโยบายเพื่อให้เกิด soft skill ที่สอดคล้องต่อตลาดงานได้ เช่น เน้นการสอนใช้ภาษาอังกฤษให้ได้ 100%, ต้องทำให้ผู้เรียนกล้าใช้ภาษาต่างประเทศ, เปลี่ยนจากการ lecture method มาเป็น discussion method และมีระบบที่ทำให้นักศึกษาค้นพบเป้าหมายของตนเอง

ภาคการศึกษาควรร่วมมือกับภาคเอกชน เพื่อผลิตบุคลากรที่ตอบโจทย์

เพื่อผลิตบุคลากรให้ตอบโจทย์ตลาดแรงงาน ภาคการศึกษาไม่สามารถทำได้เพียงลำพัง และจำเป็นต้องร่วมมือภาคเอกชน ปรับหลักสูตรให้ทันสมัยตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรม เช่น เปิดหลักสูตรใหม่โดยให้ผู้เชี่ยวชาญจากสายงานนั้นๆ มาร่วมเป็นผู้สอน ยกตัวอย่างเช่น โครงการ Cooperative and Work-Integrated Education: CWIE หรือที่เรียกในภาษาไทยว่า สหกิจศึกษา คือโครงการที่เปิดโอกาสให้สถานประกอบการทั้งภาคเอกชน และภาครัฐได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพบัณฑิต ให้นักศึกษามาลองทำงานจริง ทำให้เกิดการจ้างงานง่ายขึ้น ลดปัญหาการปรับตัวในการทำงานเมื่อจบและได้ทำงานจริง

ภาพจาก Pexels

นักศึกษาต้องเตรียมความพร้อม สร้างแบรนด์ให้ตัวเองก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน

ในฝั่งของนักศึกษาก็สามารถสร้างแบรนด์ให้ตัวเองได้ คำว่า "สร้างแบรนด์" ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงทำธุรกิจของตัวเอง แต่เป็นการเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์จากการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย เพื่อเพิ่มความโดดเด่นและความน่าสนใจในใบสมัคร เพิ่มโอกาสให้บริษัทที่ไปสมัครงานพิจารณาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

วิธีการสร้างแบรนด์สำหรับนักศึกษาจบใหม่ เช่น

  • ความรู้ด้านภาษาอังกฤษและภาษาที่ 3 สามารถฟัง พูด อ่าน เขียน และนำเสนองานได้
  • ทักษะคอมพิวเตอร์พื้นฐาน รวมทั้งมีความรู้ด้านโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่เปิดรับ
  • มีประสบการณ์ฝึกงานตามสายงานที่อยากทำ
  • มีความเชี่ยวชาญด้านการใช้โซเชียลมีเดีย
  • มีความรู้รอบตัวที่ดี เช่น ความเคลื่อนไหวของเหตุการณ์บ้านเมือง โดยเฉพาะความรู้พื้นฐานของอุตสาหกรรมที่ตนสนใจจะเข้าไปสมัครงาน
  • มีบุคลิกภาพดี ใฝ่รู้ และมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี

เมื่อภาคการศึกษามีหลักสูตรที่สอดคล้องกับความต้องการแรงงานในตลาด มีอุปกรณ์และระบบที่เอื้อต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ ให้นักศึกษาได้เรียนและได้ลงมือปฏิบัติงาน และฝึกงานในวงการวิชาชีพจริง สามารถนำไปต่อยอดวิชาชีพที่กำลังเป็นที่ต้องการในตลาดได้จริง ส่งผลให้นักศึกษามีความคล่องตัว สามารถปรับตัวได้ทันต่อความเปลี่ยนแปลง จะช่วยลดปัญหาการว่างงาน และปัญหาขาดแรงงานในตลาดได้

วันนี้สถาบันการศึกษาโดยเฉพาะมหาวิทยาลัย จะนิ่งเฉยไม่ได้แล้ว มหาวิทยาลัยเป็นด่านสุดท้ายก่อนที่นักศึกษาจะเข้าสู่โลกการทำงาน ในขณะที่โลกเปลี่ยนแปลงรวดเร็วขึ้นทุกวัน บัณฑิตใหม่ตกงานมากขึ้นเพราะความรู้ที่ได้ไม่ตรงกับโลกที่เปลี่ยนไป มหาวิทยาลัยต้องปรับตัวให้เร็ว เพื่อพัฒนาบุคลากรที่ตอบโจทย์โลกในปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างดีที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก

  1. คุณธีรศักดิ์ สงวนมานะศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายมหาวิทยาลัยสัมพันธ์และสรรหาว่าจ้าง ประจำภูมิภาคเอเชีย บริษัท เวสเทิร์นดิจิตอล (ประเทศไทย) จำกัด
  2. คุณอันธิกา ลิมปิอนันต์ชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด
  3. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
Blognone Jobs Premium