ลองนั่ง Arma รถอัตโนมัติรับส่งผู้โดยสารในลาสเวกัส

by lew
6 December 2017 - 19:08

เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมามีข่าวรถอัตโนมัติ Arma เริ่มรับส่งผู้โดยสารหลังจากทดสอบวิ่งบนถนนมาเกือบปี (และดันมีอุบัติเหตุชนในวันแรก) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมก็ได้ไปร่วมงาน AWS re:Invent ที่ลาสเวกัสที่จัดงานอยู่ใกล้ๆ เมือง Fremont ที่ทดสอบรถ Arma นี้พอดี จึงมีโอกาสไปลองนั่งด้วยตัวเอง

รถ Arma ให้บริการจากหน้า community mall ที่ชื่อว่า Downtown Container Park การลองนั่งไม่มีค่าใช้จ่าย การให้บริการดำเนินการโดยบริษัท KEOLIS ผู้ให้ดำเนินกิจการระบบขนส่งมวลชนรายใหญ่ในยุโรป โดย KEOLIS และ NAVYA ผู้ผลิตรถประกาศความร่วมมือกันตั้งแต่เดือนกันยายน 2016

รถจะให้บริการเป็นช่วงๆ เช่น บ่ายโมงถึงบ่ายสองแล้วพัก ผมไปถึง Container Park ตอนบ่ายสองพอดีก็ต้องเดินรอบๆ รอถึง 14:45 แล้วจึงออกมาต่อแถว จะมีพนักงานมาจัดคิว สามารถแจ้งได้ว่ามาด้วยกันกี่คนเพื่อให้จัดให้นั่งไปด้วยกัน ให้ความรู้สึกเหมือนเครื่องเล่นมากกว่ารถโดยสารจริงๆ

กล้องสามมิติด้านหน้ารถ

ตัวรถโดยรอบมีเซ็นเซอร์ LIDAR 8 ตัวเป็นด้านหน้าและหลังอย่างละ 3 ตัว และด้านข้างด้านละตัว ด้านหน้าและหลังมีกล้องสามมิติติดตั้งอยู่ ที่จริงแล้วตัวรถออกแบบให้เหมือนไม่มีด้านหลังและใช้งานได้ทั้งสองด้าน แต่รถคันนี้มีกล้องวงจรปิดรถยนต์ติดอยู่ด้านหน้าด้วย ส่วนด้านหลังจะมีจุดต่อไฟชาร์จอยู่ด้วย โดยต้องการไฟฟ้า 230 โวลต์แบบยุโรปเพื่อชาร์จไป

ตามสเปครถแล้ว Arma รองรับผู้โดยสารได้ 12 คน เป็นที่นั่ง 10 ที่นั่ง หน้าหลังด้านละสี่ที่นั่งและด้านตรงข้ามประตูอีก 2 คน พื้นที่ตรงกลางน่าจะยืนได้อีก 3-4 คนอย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารทั้งหมดห้ามยืนในรถ และเมื่อนั่งแล้วต้องคาดเข็มขัดนิรภัยเสมอ ที่นั่งตรงข้ามประตูไม่ได้ใช้งานทำให้การเดินทางช่วงทดลองนี้เดินทางได้รอบละ 8 คนเท่านั้น ภายในรถมีป้ายเตือนว่ารถอาจเบรครุนแรง และต้องจับรถไว้เสมอ

ด้านหน้าและหลังรถเหมือนกันแทบทั้งหมด ยกเว้นด้านหลังจะมีปลั๊กชาร์จไป 230V และด้านหน้ามีกล้องบันทึกภาพการขับขี่

ผู้ควบคุมรถจะถือจอยแพด Xbox เพื่อเตรียมพร้อมควบคุมรถในเวลาฉุกเฉิน เขาเล่าให้ฟังว่าเขาควบคุมรถมาเป็นเวลาเกือบปีนะหว่างการทดลองและไม่เคยเกิดเหตุอะไร แต่พอวันแรกที่รับผู้โดยสารจริงกลับเกิดเหตุเฉี่ยวชน

ตอนนี้ Arma ทดลองทั่วโลกกว่า 60 คัน รวมถึงแถบเอเชียเช่นไต้หวันและสิงคโปร์ รถที่ลาสเวกัสนี้เป็นคันแรกที่รับผู้โดยสารจริงและวิ่งบนถนนสาธารณะ ขณะที่คันอื่นแม้จะรับผู้โดยสารแต่ก็วิ่งในพื้นที่เอกชนหรือที่ดินของหน่วยงานผู้ทดลองเอง

คนขับ (ที่ไม่ต้องขับ) จอย Xbox สำหรับควบคุมฉุกเฉิน และกล้องบันทึกภาพด้านหน้า

เมื่อลองนั่ง รถทำความเร็วได้ไม่มากนัก ประมาณ 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น และมีแนวโน้มจะเป็นคนขับที่ "ใจดี" เสมอๆ เช่น เมื่อเจอคนข้ามถนนก็จะหยุดรถทันที และจอดค่อยข้างแรง ทำให้ประสบการณ์โดยรวมๆ ของการลองนั่ง Arma คือกระตุกๆ สักหน่อย พฤติกรรมการขับจะไม่เหมือนคนที่ขับซิ่งแบบที่เราเห็นในบ้านเรา แต่จะเหมือนคนขับมือใหม่ที่กระแทกเบรกตลอดเวลา

การนั่งกินเวลาเพียงสิบกว่านาทีเท่านั้น (ระยะทางแค่กิโลเมตรเดียว) มีป้ายให้ลงได้กลางทาง จากการลองนั่งแล้วทำให้คิดถึงปัญหาที่ต้องฝ่าฟันกันต่อไปของรถไร้คนขับ

  1. กฎหมายที่ต้องแก้ไขในอนาคต แม้ Arma จะเป็นรถอัตโนมัติแต่ในการทำงานจริงก็ต้องมีคนควบคุม แถมพอเป็นรถทดลองขนาดเล็ก อัตราส่วนพนักงานต่อผู้โดยสารกลับยิ่งสูง ถึงจุดหนึ่งก็คงต้องมีการแก้ไขให้รถเหล่านี้ไม่มีผู้ควบคุมเลยจริงๆ
  2. การยอมรับความเสี่ยงในการออกแบบรถอัตโนมัติ ความกลัวว่ารถอัตโนมัติจะเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุร้ายแรงทำให้รถถุกออกแบบให้หยุดเสมอเมื่อเข้าสู่ภาวะไม่แน่นอน (มีคนยืนจ่อจะข้ามถนน, รถข้างหน้าจะแซง) เมื่อรถหยุดๆ ทุกจังหวะที่มีความเสี่ยงแบบนี้ทำให้การเดินทางโดยรวมกลบช้านลง แถมประสบการณ์ที่ได้ไม่ดีนัก
  3. การรองรับสภาวะที่อันตรายยิ่งกว่ารถจริงๆ ผู้ควบคุมรถเล่าให้ฟังว่าสิ่งที่เขาพบเสมอคือมีคนพยายามจะกระโดดตัดหน้ารถเพื่่อจะดูว่ามันหยุดจริงหรือไม่ แม้ว่าจะเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ การนำรถอันโนมัติมาใช้งานก็ควรต้องคิดถึงประเด็นนี้ ว่ามันจะสามารถจัดการกับรถคันอื่นที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างไร
Blognone Jobs Premium