ปี 2015-2016 อาจไม่ใช่ปีที่ดีนักของ Xiaomi (ข่าวเก่า 1, ข่าวเก่า 2, ข่าวเก่า 3) แต่บริษัทกลับมาทำผลงานได้ดีในปี 2017 ทั้งในแง่ยอดขายโทรศัพท์, กลับมาติด Top 5 ของโลก, ขึ้นเบอร์หนึ่งผู้ขายอุปกรณ์ wearable ของโลก, ขึ้นเบอร์หนึ่งผู้ขายสมาร์ทโฟนในอินเดีย คำถามที่น่าสนใจคือ Xiaomi กลับมาประสบความสำเร็จได้อย่างไร
Lei Jun ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Xiaomi ประเมินสาเหตุที่บริษัทย่ำแย่ในช่วง 1-2 ปีก่อนหน้า ว่าเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งปัญหาเรื่องซัพพลายเชนของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, ปัญหาการบริหารภายในองค์กรเอง และโมเดลการขายสมาร์ทโฟนผ่านช่องทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว ที่เริ่มถึงทางตัน
บริษัทจึงใช้โอกาสที่เพลี่ยงพล้ำ ปรับตัวเองใหม่จนกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง
เดิมที โมเดลธุรกิจของ Xiaomi มีอยู่สองส่วน คือ การขายฮาร์ดแวร์ในราคาถูกที่มีกำไรไม่มาก และทำเงินจากบริการออนไลน์ที่พ่วงกับฮาร์ดแวร์ แต่หลังบริษัทประสบปัญหา ผู้บริหารจึงมองว่าถึงเวลาของโมเดลธุรกิจแบบที่สาม นั่นคือเปิดร้านขายปลีกแบบออฟไลน์ให้มากขึ้น
Xiaomi แก้ปัญหาเรื่องร้านขายโทรศัพท์หรือทีวี มียอดการซื้อซ้ำไม่บ่อย เพราะคนเปลี่ยนโทรศัพท์หรือทีวีไม่บ่อย ด้วยการสร้างพาร์ทเนอร์กับบริษัทสตาร์ตอัพจำนวนมากนับร้อยราย วางขายสินค้าอย่างลำโพงบลูทูธ สายรัดข้อมือ พาวเวอร์แบงค์ หม้อหุงข้าวอัจฉริยะ เครื่องฟอกอากาศ โดยชูจุดขายเรื่องสินค้าคุณภาพดีในราคาถูกเหลือเชื่อ ส่งผลให้เกิดฐานผู้ใช้ที่แวะเข้ามาดูในร้านบ่อยๆ ว่ามีสินค้าอะไรใหม่บ้าง
เครื่องฟอกอากาศของ Xiaomi ถือเป็นสินค้ายอดฮิตในจีน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีปัญหาเรื่องมลภาวะทางอากาศ การที่ Xiaomi วางขายเครื่องฟอกอากาศคุณภาพดี ในราคาถูกกว่าเจ้าตลาดเดิม 5 เท่า (500 ดอลลาร์ vs 105 ดอลลาร์) ทำให้ Xiaomi กลายเป็นผู้นำตลาดเครื่องฟอกอากาศในจีนภายใน 2 เดือนแรกที่วางขาย
ส่วนสินค้าหลักของบริษัทอย่างโทรศัพท์ ก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ Mi Mix มือถือจอไร้ขอบ ที่ทำยอดขายได้ดี เบื้องหลังของจอไร้ขอบต้องเริ่มจากการถอดลำโพงออกจากฝั่งด้านหน้าเครื่อง เพื่อวางจอให้เต็มพื้นที่ ทำให้บริษัทต้องพัฒนาเทคนิคการวางชิ้นส่วนเซรามิกไว้ใต้แผงจอ เพื่อให้สั่นเป็นเสียงเข้าหูของผู้ใช้งานแทน
เป้าหมายต่อไปของ Xiaomi คือการบุกเข้าไปยังตลาดโทรศัพท์ในสหรัฐ ที่พึ่งพาช่องทางการขายของโอเปอเรเตอร์อยู่มาก และต้องสั่งสมสิทธิบัตรเพื่อป้องกันตัวเองจากปัญหาฟ้องร้องนอกประเทศจีน รวมถึงแผนการ IPO ที่ว่ากันว่าจะเกิดภายในปี 2018 และอาจเป็นการขายหุ้น IPO ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นด้วย
ที่มา - Wired