เตรียมสัมผัสประสบการณ์สุดล้ำ พบกับเทคโนโลยีล้ำสมัยที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงโลก KBTG Techtopia 2024 งานรวมมิตรด้านเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี กำลังจะกลับมาอีกครั้งในธีม "A Blast From the Future" พบกับนวัตกรรมล้ำสมัย เทรนด์เทคโนโลยีร้อนแรง และโอกาสทางธุรกิจมากมาย
“Transformation never ends” การปรับปรุงพัฒนา (ตัวเอง) จะไม่มีวันสิ้นสุด คือคำพูดแรกๆ ของ คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล Group Chairman ของ KASIKORN Business-Technology Group หรือ KBTG ที่พูดเปิดการแถลง KBTG Vision ล่าสุด ที่มาในธีม The Never-ending Adventure เพื่อสะท้อนการพัฒนาขององค์กรที่จำเป็นต้องดำเนินอยู่ตลอดเวลา แล้วหมุดหมายการพัฒนาแรกจะเดินทางถึงแล้วก็ตาม
เรื่องของ Machine Learning และ AI คือเทคโนโลยีหลักที่ถูกพูดถึงอย่างมากในรอบปีที่ผ่านมา เพราะนี่คือสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงโลกให้ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างจะเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มความเร็ว แต่หลายสิ่งที่หลายคนยังกังวลคือ เทคโนโลยีเหล่านี้จะมาทดแทนคนหรือไม่ หรือเราสามารถใช้งานเทคโนโลยีได้เต็มประสิทธิภาพแล้วหรือยัง ซึ่งแนวทางในอนาคตสามารถเห็นได้จากบริษัท Tech Company ที่วางแนวทางการพัฒนาและยกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเราผ่านยุคของเทคโนโลยีที่มีความมุ่งเน้นที่แตกต่างกันไป เช่น Mobile FIrst ทุกอย่างต้องอยู่บนมือถือ, Data First ทุกอย่างคือเรื่องของข้อมูล แต่ปัจจุบันชัดเจนแล้วว่า เราได้ก้าวเข้าสู่ AI-First หรือเป็นยุคของปัญญาประดิษฐ์ที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้แตกต่างไปจากเดิมแบบก้าวกระโดดในอีก 10 ปีจากนี้ไป บอกได้คำเดียวว่าจะไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกเลย
เมื่อวันที่ 1-2 กันยายนที่ผ่านมา KASIKORN Business-Technology Group หรือ KBTG ได้จัดงานมหกรรมเทคโนโลยี KBTG Techtopia ที่รวมทั้งการนำเสนอเทคโนโลนีผ่านนิทรรศการ, การบรรยายหลายสิบรายการจากผู้บรรยายกว่า 35 คน, และการทำเวิร์คชอปแบบลงมือทำจริงภายในงาน นับเป็นการเปิดตัวงานมหกรรมเทคโนโลยีของ KBTG ที่เตรียมพาวงการเทคโนโลยีของไทยรับมือความเปลี่ยนแปลงในอนาคตต่อไป
AI จะครองโลก คำกล่าวนี้ไม่เกินจริง แต่ไม่ได้หมายถึงการยึดครองโลกแบบในภาพยนตร์ แต่เป็นการเข้ามาครองพื้นที่ในชีวิตประจำวันของมนุษย์และสร้างประโยชน์ สร้างความสะดวกสบายให้เกิดขึ้น ดังนั้นเราต้องไม่พลาดที่จะเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และนำ AI มาใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อจักรวาลของ AI ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว KBTG ในฐานะบริษัทด้านเทคโนโลยี จึงไม่พลาดที่จะจัดงาน KBTG Techtopia เพื่อพาทุกคนเข้าไปสำรวจให้ลึกว่าทุกวันนี้เทคโนโลยี AI ทั่วโลกไปไกลขนาดไหน โดยงานครั้งนี้มาในธีม Across the AI-Verse เพื่อให้ชาวเทคได้เตรียมความพร้อม และสัมผัสประสบการณ์จริงกับโลกของ AI
KBTG ประกาศจัดงาน KBTG Techtopia ในธีม “Across the AI-Verse” วันที่ 1-2 กันยายนนี้ ที่อาคาร KBTG เมืองทองธานี จัดเต็มสาระแง่มุมต่างๆ ของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเตรียมความพร้อมให้ชาวเทคฯ รับความรู้และประสบการณ์จากกูรูระดับแนวหน้า ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ KBTG ในการเป็นผู้นำด้าน AI ของไทย รวมถึงสอดรับนโยบาย ESG ขององค์กรด้วยการมอบรายได้ทั้งหมดให้กับสถาบันสิ่งแวดล้อม คาดจะมีชาวเทคฯ ให้ความสนใจเข้าร่วมงานคับคั่ง เปิดจำหน่ายบัตรแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
KBTG ประกาศเปิดสำนักงานที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม นับเป็นสำนักงานแห่งที่ 3 ในเอเชียต่อจากสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ และ K-Tech ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน โดยตั้งเป้าให้ IT Hub สำหรับการขยายธุรกิจของธนาคารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท KBTG บรรยายในงาน The Age of AI: Augmented Intelligence นำเสนอแนวทางการยกระดับวงการปัญญาประดิษฐ์ในประเทศไทย และสิ่งที่ต้องระมัดระวังต่อการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ต่อไปในอนาคต โดยในปี 2023 นี้นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นแห่งยุคปัญญาประดิษฐ์อย่างแท้จริง และโลกกำลังเปลี่ยนจากยุค Mobile First ไปยังยุค AI First
ช่วงระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา นับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของวงการการเงินไทย หลังจากเรามีระบบพร้อมเพย์ที่ให้บริการโอนเงินได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีค่าธรรมเนียมทำให้คนจำนวนมากนิยมใช้งานบริการโอนเงินออนไลน์กันมากขึ้นเรื่อยๆ เหตุการณ์โรค COVID-19 ระบาดก็กลายเป็นตัวเร่งให้ผู้คนหันมาทำธุรกรรมทางการเงินผ่านทางบริการธนาคารออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ที่งาน KBTG Vision 2025 คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล บรรยายถึงแนวโน้มการลงทุนในโลกการเงินของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่าอุตสาหกรรมการเงินของภูมิภาคนี้กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยจะเห็นได้ถึงเงินลงทุนในอุตสาหกรรมการเงินที่ลงทุนในภูมินี้สูงกว่าแสนล้านบาท โดยภูมิภาคนี้มีความเหมาะสมที่จะเติบโตทั้งจำนวนประชากร, การเชื่อมโยงถึงกันในภูมิภาค, และการเติบโตที่ต่อเนื่อง
KBTG เปิดเผยความสำเร็จในรอบปีที่ผ่านมาของ K Plus ที่มีผู้ใช้งานเกิน 18.6 ล้านรายแล้ว (สิ้นปีคาดว่าจะแตะ 20 ล้านราย) มีจำนวนธุรกรรมทั้งหมด 2.9 หมื่นล้านครั้ง เป็นเงินรวมกัน 23 ล้านล้านบาท สัดส่วนเป็น 1/3 ของจำนวนธุรกรรมผ่าน Mobile Banking ทั้งหมดในประเทศ
นอกจากนี้ในแง่ระบบหลังบ้านของ K Plus ก็สามารลดเหตุการณ์ที่มีความร้ายแรงระดับ 1 และ 2 ได้ลดลงถึง 60% ระยะเวลาในการล่ม (down time) ก็ลดลง 66% เช่นเดียวกับระยะเวลาที่ใช้แกัปญหาเวลาระบบล่มก็ลดลงถึง 33% โดยปัจจุบันเวลาที่ใช้แก้โดยเฉลี่ยน้อยกว่า 1 นาที
วันนี้ KBTG บริษัทย่อยของธนาคารกสิกรไทยได้เปิดเผยวิสัยทัศน์บริษัทในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยตั้งเป้าจะเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีระดับท็อปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในเชิงเทคโนโลยี นวัตกรรม บุคลากรและบริษัทที่น่าทำงาน
คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูลผล ประธาน KBTG อธิบายว่าปัจจุบันแม้ทั่วโลกจะเผชิญกับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ แต่ในแวดวงเทคโนโลยีและฟินเทค ยังคงแข็งแกร่ง จากเม็ดเงินลงทุนในภูมิภาคนี้
KBTG กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีของธนาคารกสิกรไทย วางเป็าหมายสู่ The Best Tech Organization แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในปี 2025 ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นได้ หนึ่งในตัวแปรสำคัญคือทีมงานที่มีคุณภาพ
จุดนี้เองในเดือน มี.ค. 2022 KBTG จึงเข้าร่วม MIT Media Lab Research Consortium เพื่อสนับสนุนการทำวิจัยด้านบริการทางการเงินยุคอนาคต และเตรียมให้พนักงาน KBTG เข้าไปมีส่วนร่วมกับงานวิจัยดังกล่าว
มากกว่านั้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการสร้างทีมงาน และองค์กรอันดับ 1 ของอาเซียน KBTG มีการให้ทุนแบบ Fellowship กับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของ MIT Media Lab ถือเป็นการสนับสนุนการศึกษาอีกระดับ
DESTINY TOKEN เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Kubix บริษัท ICO Portal ที่ทำ End-to-End Tokenization Solution ในเครือ KBTG กับ GDH และ Broadcast Thai Television ถือเป็นมิติใหม่ในการระดมทุนเพื่อสร้างภาพยนตร์ และนอกจากผู้ลงทุนได้ผลตอบแทนเป็นตัวเงิน ยังได้ประสบการณ์รับชมภาพยนตร์ใหม่ ๆ ด้วย
ว่าแต่จุดเริ่มต้นของ DESTINY TOKEN คืออะไร และโทเคนดิจิทัลนี้แตกต่างกับเหรียญสกุลเงินดิจิทัลต่าง ๆ หรือไม่ รายละเอียดเรื่องผลตอบแทน จากการลงทุนมีอะไรบ้าง Blognone ขออาสาหาคำตอบมาให้ผู้อ่านได้รับรู้ไปด้วยกัน
KBTG เข้าร่วมเป็นสมาชิก MIT Media Lab ห้องปฏิบัติการวิจัยของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาซูเซตส์ สหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ เป็นบริษัทไทยแห่งแรกที่จะส่งนักวิจัยไปที่ห้องปฏิบัติการงานวิจัยของ MIT เพื่อทำงานร่วมกันในด้านการวิจัยเทคโนโลยีระดับแนวหน้าสำหรับบริการทางการเงินยุคใหม่
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงปีที่ผ่านมา วงการ NFT ค่อนข้างเป็นที่คึกคัก ได้รับความสนใจทั้งในระดับประเทศและระดับโลก โดยเฉพาะการถูกนำมาเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายผลงานศิลปะ ให้ศิลปินมีช่องทางการขายและสร้างชื่อเสียงได้ง่ายขึ้น ขณะที่นักสะสมก็สามารถแสดงเป็นเจ้าของผลงานศิลปะนั้นได้จริงๆ
แต่หากกลับมามองในประเทศไทย ก่อนหน้านี้ทั้งศิลปินและนักสะสม ยังต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มต่างประเทศแต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งก็อาจมีอุปสรรคและปัญหาในหลายๆ ส่วน ไม่รวมวงการศิลปะเองที่กำลังเผชิญปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ ผลงานถูกขโมยและนำไปวางขายในแพลตฟอร์มต่างประเทศ ยากแก่การดำเนินเรื่อง ขณะที่แพลตฟอร์มเองก็ยากที่จะพิสูจน์ว่าผลงานดังกล่าวเป็นของผู้ที่วางขายจริงหรือไม่
ในงาน “THE METAMORPHOSIS" Regional Business Townhall & Press Conference 2021 งานทาวน์ฮอลล์ระดับภูมิภาคของธนาคารกสิกรไทยปีนี้ คุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท KBTG (Group Chairman – KASIKORN BUSINESS-TECHNOLOGY GROUP) บรรยายถึงความสำคัญและความก้าวหน้าของการตั้งบริษัท KTECH ที่ก่อตั้งบริษัทและมีความก้าวหน้าต่อเนื่องแม้จะเป็นช่วงวิกฤติ COVID-19 ก็ตามที และเตรียมเปิด KBTG ในเวียดนามต่อไป
นายภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย แถลงความคืบหน้าของการขยายธุรกิจในประเทศเวียดนาม โดยใช้แนวทางการมีสาขาจำนวนไม่มาก แต่ช่องทางดิจิทัลให้บริการลูกค้าแทน ด้วยแอพ K PLUS ที่พัฒนาโดย KBTG และคนไทยคุ้นเคยอยู่แล้ว
นายภัทรพงศ์ ยังให้ข้อมูลว่าปัจจุบัน KBank ในประเทศลาว มีผู้ใช้งานแอพของธนาคารแล้ว 2 แสนราย
ด้านนายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท KASIKORN Business-Technology Group (KBTG) ระบุว่าตอนนี้เปิด KBTG Vietnam แล้วเพื่อดึงดูดนักพัฒนาซอฟต์แวร์จากประเทศเวียดนามมาทำงานด้วย สำนักงานตั้งอยู่ที่เขต 12 ในเมืองโฮจิมิห์นซิตี้ ตั้งเป้ามีพนักงาน 80 คนในปี 2022 และขยายเป็น 350 คนในปี 2026
ในช่วงปีที่ผ่านมา เราได้เห็นผลงานสำคัญของ KBTG ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีในเครือธนาคารกสิกรไทย สร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเงินหลากหลายรูปแบบที่ใกล้ชิดกับการใช้ชีวิตของคนทั่วไป ทั้งขุนทอง แชทบอทช่วยเก็บเงินจากกลุ่มเพื่อนผ่านไลน์, Eatable แพลตฟอร์มอำนวยความสะดวกให้คนทำธุรกิจร้านอาหาร
จากประเด็น KASIKORN X บริษัทลงทุนในเครือ KBTG เปิดตัว Coral แพลตฟอร์ม NFT Marketplace ทำให้มีการตั้งคำถามว่า เพราะเหตุใด KBTG ถึงเปิดแพลตฟอร์ม NFT ได้ ท้งที่มีบางบริษัทจะเปิด NFT มาก่อนหน้านี้กันแต่ ก.ล.ต. หรือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ยังไม่อนุญาต
ล่าสุด ทางสำนักข่าว อีไฟแนนซ์ไทย สอบถามไปยัง ก.ล.ต. ได้คำตอบกลับมาทางอีเมลว่าที่สามารถเปิดได้เพราะไม่เข้าข่ายเป็นโทเค็น หรือ Crypto Currency
KBTG จัดงาน The Next Chapter of KBTG แถลงกลยุทธ์สำคัญของบริษัท พร้อมทั้งเปิดตัวอภิมหาโปรเจกต์มากมายที่จะสร้าง Impact ต่อโลกธุรกิจ การเงิน และเทคโนโลยีในประเทศไทย
ภายในงานมีการเปิดตัวกลยุทธ์อย่างเป็นทางการของ KASIKORN X หรือ KX บริษัทลงทุนในเทคโนโลยีเกิดใหม่ ที่มีภารกิจสร้าง Fintech Unicorn รายแรกของประเทศไทยให้ได้ และเปิดตัว Coral แพลตฟอร์มซื้อขายงานศิลปะในรูปแบบ NFT ซึ่งถือเป็นอีกครั้งที่ KBTG ก้าวเข้าสู่โลกใหม่ทางการเงินอย่างสินทรัพย์ดิจิทัลและ Decentralized Finance (DeFi) หลังจากก่อนหน้านี้เปิดตัวบริษัทลูก Kubix ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลผ่านบล็อกเชนไปแล้ว
KX หรือ KASIKORN X บริษัทลงทุนที่มุ่งผลิตสตาร์ทอัพด้าน Decentralized Finance and Beyond ออกสู่ตลาด อยู่ในเครือ KBTG เปิดตัว Coral แพลตฟอร์ม NFT Marketplace หนุนศิลปินไทยและเอเชียขายผลงานศิลปะ NFT สามารถใช้เงินธรรมดาอย่างเงินบาท หรือเงินดอลลาร์สหรัฐฯหรือ Fiat money ซื้อได้ และสามารถซื้อได้ผ่านบัตรเดบิต เครดิตและแอปธนาคาร แต่ยังซื้อผ่าน Cryptocurrency ไม่ได้
ก่อนโควิด-19 เรามักจะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอยู่เสมอ คนในวงการเทคโนโลยี นักธุรกิจและผู้ประกอบการ ต่างอยากรู้อยากเห็นและคาดการณ์เทรนด์เทคโนโลยีไว้ล่วงหน้า 10 ปี 20 ปี เพื่อที่จะได้ตั้งรับและปรับตัวได้ทัน ในแง่การลงทุนก็เช่นกัน นักลงทุนมองหาเทรนด์ธุรกิจใหม่ๆ เพื่อบริหารความมั่งคั่ง และมีแนวโน้มที่จะลงทุนในเมกะเทรนด์ หรือเทรนด์ที่จะมามีส่วนสำคัญในธุรกิจกระแสหลักในอนาคตอันใกล้
ในช่วงที่ประชาชนประสบปัญหาจากวิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมาก จนคนจำนวนไม่น้อยต้องหันไปพึ่งพาสินเชื่อจากแหล่งต่างๆ ที่ไม่ใช่บริการทางการเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้มีปัญหาด้านดอกเบี้ยสูงเกินกำหนด และการจ่ายหนี้นอกระบบตามมา
KBTG, LINE BK และ dtac จึงร่วมมือกันผลักดันโครงการ “ใจดี มีวงเงินให้ยืม” เพื่อเปิดช่องทางให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนขนาดเล็ก (nano loan) ที่สามารถยื่นขอสินเชื่อผ่านสมาร์ทโฟนได้ทันที